เจาะเทรนด์รักโลกปี 2021 เตรียมตัวเข้าสู่สังคมแห่ง “คาร์บอนต่ำ”

จากปี 2020 ซึ่งเป็นปีแห่งวิกฤตจากโควิด -19 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงักอย่างรุนแรง แต่เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน สหราชอาณาจักรได้มีการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยคาดหวังว่านานาประเทศจะกำหนดเป้าหมายลดโลกร้อนที่ชัดเจนมากขึ้น

.

แม้ว่าจะเป็นปีแห่งความสิ้นหวัง แต่ในปี 2021 นี้อาจจะเป็นปีแห่งความหวังในเรื่องสิ่งแวดล้อมก็เป็นได้ โดยวันนี้ Smart Greeny จึงพาทุกคนไปเจาะเทรนด์รักโลกปี 2021 ที่มาจากการประชุมในสหราชอาณาจักร เพื่อให้ทั่วโลกเตรียมตัวเข้าสู่สังคมแห่ง “คาร์บอนต่ำ”

.

  1. การยกเครื่องด้านพลังงาน

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น จึงทำให้ต้องมีการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มากขึ้น จึงต้องให้ความสำคัญถึงแหล่งพลังงานทดแทนกันมากขึ้น โดยหลายประเทศได้มีการกำหนดนโยบายตามเป้าหมายลดโลกร้อน อย่างประเทศสหรัฐฯ มีการปรับปรุงอาคาร 4 ล้านแห่งให้ใช้พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

  • E-Mobility ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

การขนส่งก็เป็นอีกเทรนด์มาแรงที่รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้รับความสนใจมากขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าเทรนด์รักโลกนั้นส่งผลให้ธุรกิจรถยนต์เริ่มปรับตัวโดยผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (E-Mobility) มากขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายทั้งในเรื่องการปล่อยควัน และการใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมันนั่นเอง

  • สินค้าเทคโนโลยีต้องเป็นผู้รักโลกด้วย

ธุรกิจเทคโนโลยีก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยเพราะการผลิตย่อมมีก๊าซเรือนกระจก และบริษัทยักษ์ใหญ่ในเรื่องเทคโนโลยีอย่าง Apple ก็มีแผนที่จะเป็น ‘บริษัทที่เป็นกลางทางคาร์บอน’ ด้วยเช่นกัน โดยมีการสร้างนวัตกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ อย่างการเปิดตัว iPhone12 ที่ผ่านมา ได้ยกเลิกการแถมที่ชาร์จและหูฟังเพื่อลดขยะ รวมถึงตัวเครื่องมีการใช้แม่เหล็กที่ผลิตจากแร่ rare earth ที่ได้จากการรีไซเคิลทั้งหมดอีกด้วย

  • ไม่ใช่แค่ Reuse แต่ต้องรู้จัก Upcycling

เทรนด์รักโลกสำหรับผู้บริโภคมาอาจจะมาแรงในปี 2021 คงหนีไม่พ้น  ‘การนำกลับมาใช้ใหม่อย่างสร้างสรรค์’  หรือการ Upcycling หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างการผลิตเสื้อผ้า เป็นอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าสเรือนกระจกสูง ผู้ที่ประกอบธุรกิจจึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเราจะเห็นแบรนด์แฟชั่นหลายๆแบรนด์ที่เริ่มมีการนำวัตถุดิบเหลือใช้นำมาใช้กันมากขึ้น

  • ธุรกิจความงามที่ไม่สร้างขยะ

ธุรกิจความงามเป็นอีกธุรกิจที่สร้างขยะเป็นจำนวนมาก เพราะต้องมีในส่วนของบรรจุภัณฑ์นั่นเอง และการจะให้พลาสติกย่อยสลายต้องใช้เวลานานมาก ธุรกิจความงามจึงเริ่มให้ความสนใจเรื่องการลดโลกร้อนมากขึ้น อย่างแบรนด์ L’Oréal ที่มีการตั้งเป้าหมายและมีส่วนร่วมต่อการลดโลกร้อนภายในปี 2030

.

หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมลองนำเทรนด์รักโลกเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ เพื่อที่ธุรกิจคุณจะได้เป็นธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และหากคุณอยากคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกง่ายๆ ให้กับธุรกิจคุณต้อง Carbon footprint software จาก Smart Greeny ที่จะสามารถแสดงผลว่ากระบวนการใดของการผลิตมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีอยู่เท่าไหร่นั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : The Standard และ Blognone

.

ถ้าคุณอยากอัพเดทข่าวสารวงการสิ่งแวดล้อมเพียงแค่กดติดตามก็จะได้รับข่าวสารดีๆจากเรามากมาย :

Facebook Page : Smart Greeny

Website : http://www.smartgreeny.com

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *