รู้หรือไม่ว่า กว่าจะมาเป็น “กาแฟ” นั้นมีการปล่อยคาร์บอนด้วย!! EP.2

จากคอนเทนต์สัปดาห์ที่แล้ว เราทราบกันไปแล้วว่า ถ้ามีการเปลี่ยนวิธีการปลูก การขนส่งและการบริโภคกาแฟจะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 77% วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาดูว่ากาแฟแต่ละชนิดจะมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์เท่าไหร่ และถ้าปลูกด้วยวิธีการจัดการแบบยั่งยืนแล้วจะสามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้เท่าไหร่กันนะ ?

.

การปลูกกาแฟอาราบิก้า 1 กิโลกรัม ในประเทศใดประเทศหนึ่งและส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรจะทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่ากับคาร์บอนไดออกไซด์ 15.33 กิโลกรัมโดยเฉลี่ย นั่นคือเมล็ดกาแฟก่อนคั่ว (หรือที่เรียกว่า “กรีน คอฟฟี่”) ที่ผลิตโดยใช้วิธีการทั่วไป แต่ด้วยการใช้ปุ๋ยน้อยลง มีการจัดการการใช้น้ำและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระหว่างการบดและการส่งออกเมล็ดกาแ  ฟโดยเรือบรรทุกสินค้าแทนที่จะใช้เครื่องบิน ตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือ 3.51 กิโลกรัมของ CO₂ เทียบเท่าต่อกิโลกรัมของกาแฟ

.

โดยเอสเปรสโซเพียง 1 แก้วมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์เฉลี่ยประมาณ 0.28 กก. แต่อาจน้อยถึง 0.06 กก. หากมีการปลูกอย่างยั่งยืน แต่ถ้าคุณชอบกาแฟใส่นมล่ะ? ลาเต้ มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ประมาณ 0.55 กก. ตามด้วยคาปูชิโน 0.41 กก. และกาแฟนมร้อน (ลาเต้ที่ไร้โฟมนมนั่นเอง) 0.34 กก. แต่เมื่อผลิตกาแฟได้อย่างยั่งยืนค่าเหล่านี้จะลดลงเหลือ 0.33 กก. 0.2 กก. และ 0.13 กก. ตามลำดับ ถ้าจะใส่อย่างอื่นที่ไม่ใช่นม ก็จะเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้กาแฟมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย

.

มีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของกาแฟอย่างยั่งยืนให้มากขึ้น เช่นการเปลี่ยนปุ๋ยเคมีด้วยขยะอินทรีย์และการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อขับเคลื่อนอุปกรณ์ในฟาร์ม การคั่วเมล็ดกาแฟในประเทศต้นทางทำให้มีน้ำหนักเบาในระหว่างการขนส่ง ดังนั้นเรือจึงใช้เชื้อเพลิงน้อยลงในการขนส่งกาแฟในปริมาณเท่ากัน

.

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่การปล่อยก๊าซคาร์บอนเท่านั้นที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมกาแฟได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนและปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เช่น มลพิษทางน้ำและการทำลายสภาพแวดล้อม หรือถิ่นที่อยู่ โดยมีแผนการรับรองเพื่อให้แน่ใจว่าการผลิตกาแฟเป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรม ระหว่างการเดินทางของเมล็ดกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกไปยังชั้นวางของร้านค้า ซึ่งแผนเหล่านี้ต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเมื่ออุตสาหกรรมเติบโตขึ้น

.

ทางหนึ่งที่จะทำได้โดยให้การปลูกกาแฟเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น คือ ผู้บริโภคสามารถซื้อกาแฟที่ได้รับการรับรองด้วยความมั่นใจว่า กาแฟที่เขาเลือกนั้นไม่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อมนั่นเองหรือโลกของเขานั่นเอง

และหากคุณเป็นผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสิ่งแวดล้อม โดยลดการปล่อยคาร์บอน Smart Greeny มีบริการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ที่จะช่วยคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของธุรกิจคุณอย่างง่าย ๆ เพื่อให้คุณทราบว่าในธุรกิจของคุณนั้น มีกระบวนการใดที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมบ้าง

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Phys.org

.

ถ้าคุณอยากอัพเดทข่าวสารวงการสิ่งแวดล้อมเพียงแค่กดติดตามก็จะได้รับข่าวสารดี ๆ จากเรามากมาย

📲 Facebook Page : Smart Greeny

🌐 Website : bit.ly/2XgcFTu

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *